รูปภาพของดมิสรา ชุ้นกตัญญู
“การนำแก่นธรรมของศาสนามาใช้กับชีวิตประจำวัน”
โดย ดมิสรา ชุ้นกตัญญู - จันทร์, 21 เมษายน 2014, 03:38PM
 

บทความเรื่อง   การนำแก่นธรรมของศาสนามาใช้กับชีวิตประจำวัน

  แก่นธรรมของทุกศาสนามีความคล้ายคลึงกัน โดยมุ่งสอนให้ทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติ และพึงละเลย ในสิ่งที่ไม่สมควร คนในสังคมมักจะนับถือศาสนาเพียงฉาบฉวย จนส่งผลกระทบมายังพฤติกรรมของคนในสังคมปัจจุบัน ในวันนี้จึงขอนำเสนอแก่นธรรมที่สำคัญที่สมควรนำไปใช้กับชีวิตประจำวัน ซึ่งแบ่งเป็นหัวข้อง่าย ๆ ดังนี้

ข้อที่ 1. จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง มนุษย์ทุกคนต่างก็เป็นพี่น้องร่วมโลกใบเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรจะรักเพื่อนบ้านหรือคนอื่นอย่างเดียวกับที่เรารักตนเอง เราจึงควรจะมีความเอื้ออาทรต่อกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ควรมองกันในแง่ร้ายหรือเห็นคนอื่นเป็นศัตรูของเรา แต่จงมองในแง่ดีของเขาและถือว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีของเราหรือเป็นญาติสนิทของเรา

ข้อที่ 2. จงอย่าฆ่าคนหรือทำร้ายคนอื่น มนุษย์ไม่ควรฆ่าหรือทำร้ายกัน แม้ว่าจะต้องมีเรื่องที่บาดหมางกันเป็นบางครั้งบางคราว ด้วยเหตุผลที่ว่าเราเป็นพี่น้องกัน จึงต้องรู้จักให้อภัย และรักกัน การฆ่ากันถือเป็นบาปหนักของผู้กระทำในทุกศาสนา และยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายของทุกสังคมอย่างร้ายแรงด้วย

ข้อที่ 3. จงอย่าพูดโกหก หรือกล่าวเท็จต่อผู้อื่น มนุษย์ไม่ควรกล่าวเท็จต่อผู้อื่น แต่ควรพูดในสิ่งที่เป็นจริงโดยไม่จำเป็นต้องกล่าวเพิ่มเติมเรื่องราวให้มากไปกว่านี้ คนที่กล่าวเท็จนอกจากจะเป็นที่รังเกียจของสังคมแล้ว การกล่าวเท็จยังเป็นอาวุธกลับมาทำร้ายตัวเราเองอีกด้วย เพราะจะทำให้ผู้อื่นขาดความเคารพเชื่อถือเรา และจะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ และชีวิตประจำวันของเราด้วย

ข้อที่ 4 จงอย่าขโมยของผู้อื่น มนุษย์ควรจะเคารพในสิทธิของคนอื่นที่เป็นเจ้าของ และเขาต้องหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ซึ่งกว่าจะได้มาบางครั้งต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเราจึงไม่มีสิทธินำของคนอื่นมาเป็นของตน หากเราต้องการสิ่งของ เงินทองก็ควรหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ค่ะ

ข้อที่ 5 จงอย่าผิดประเวณี มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับเพศตรงข้าม เยาวชนควรรู้จักรักษาความบริสุทธิ์ของตนไว้จนกว่าจะถึงเวลาอันควร การทำผิดในเรื่องทางเพศนอกจากนอกจากจะเป็นเรื่องที่น่าอับอาย อาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรนำมาซึ่งปัญหาสังคมอีกหลายประการ

ข้อที่ 6 จงให้เกียรติ เคารพบิดามารดาและผู้อาวุโส เพราะว่าท่านเหล่านั้นล้วนมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า โดยเฉพาะบิดามารดาของเรา เพราะท่านเป็นผู้ ให้กำเนิด เลี้ยงดู และอบรมสั่งสอนเรามาจนเติบใหญ่ เราจึงควรตอบแทนความรัก ความเมตตาที่ท่านมีต่อเรา ด้วยการเคารพเชื่อฟัง และดูแลเอาใจใส่ เมื่อท่านเจ็บป่วยหรือชรา ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

ข้อที่ 7 จงมีความเมตตาปรานีต่อกัน ผู้ชอบธรรมควรจะมีความเมตตาปรานีต่อผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อพบเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ก็ควรให้ความช่วยเหลือ ตามความสามารถที่เรามี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อผู้อื่นจะได้รับความบรรเทาใจ

ข้อที่ 8 จงให้อภัยแก่กันและกัน ผู้ชอบธรรมควรให้อภัยต่อผู้อื่น ถึงแม้ว่าจะมีคนทำไม่ดีกับเรา นี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ถ้าเราสามารถทำได้และสามารถลืมอดีตที่เคยถูกทำร้าย ไม่ผูกพยาบาท อาจทำให้ศัตรูกลับกลายเป็นมิตรได้ เมื่ออ่านถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดในใจว่า สิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว แต่บางครั้ง อาจมีเหตุทำให้เราหลงลืมไป หรือละเลยสิ่งที่ควรทำ ก็ถือว่าเรามาทบทวนเพื่อนำไปปฏิบัติ ในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ  จะได้ช่วยกันทำให้สังคมของเราน่าอยู่และดีขึ้น

นางสาวดมิศรา ชุ้นกตัญญู