รูปภาพของอนุวิท พลอยรัตน์
1 วัน มีมากกว่า 24 ชั่วโมง จริงหรือ!
โดย อนุวิท พลอยรัตน์ - พฤหัสบดี, 3 มีนาคม 2016, 08:58AM
 
บทความ 2558 โดย ม.อนุวิท พลอยรัตน์
ทุกวันนี้ เรามักจะได้ยินหลายๆคนบ่นกันว่า ไม่มีเวลาบ้างล่ะ ไม่ว่างบ้างล่ะ มีเวลาน้อยบ้างล่ะ ทั้งๆที่ 1วัน ก็มี 24 ชั่วโมงเท่าๆกับของคนอื่น แล้วเวลามันหายไปไหนหมด

1 วัน มีมากกว่า 24 ชั่วโมง จริงหรือ!

ทุกวันนี้ เรามักจะได้ยินหลายๆคนบ่นกันว่า ไม่มีเวลาบ้างล่ะ ไม่ว่างบ้างล่ะ มีเวลาน้อยบ้างล่ะ ทั้งๆที่ 1วัน ก็มี 24 ชั่วโมงเท่าๆกับของคนอื่น แล้วเวลามันหายไปไหนหมด...เพื่อนๆ คงรู้สึกนะครับว่าการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์อยู่กับบ้าน ย่อมมีบรรยากาศในการทำงานต่างจากการนั่งทำงานในออฟฟิศจริงๆ ซึ่งได้จัดบรรยากาศในการทำงานไว้ให้เราอย่างเต็มเปี่ยม การนั่งทำงานจากที่บ้าน จึงมีปัจจัยหลายอย่างที่มักจะหันเหเราออกไปจากความมุ่งมั่นในแต่ละวันได้เสมอเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากัน เราบริหารเวลาอย่างไร ก็ย่อมส่งผลถึงธุรกิจของเราอย่างนั้น ยิ่งโดยเฉพาะการทำธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ด้วยแล้ว การบริหารเวลา จึงไม่ได้หมายความแค่ การจัดสรรเวลา เท่านั้น แต่มันยังหมายถึง การบริหารชีวิตทั้งหมดของเรา อีกด้วยครับเอาล่ะครับ เรามาดูกันเลย ว่า 10 สุดยอด การบริหารเวลา สำหรับนักธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ มีอะไรบ้าง
1. คุณต้องทำตารางการทำงานของจริงครับหมายถึง คุณต้องทำตารางการทำงาน ที่จับต้องได้ ขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงคิดไว้คร่าวๆในใจว่าจะทำอะไรบ้าง เพราะในแต่ละวัน มักจะมีเรื่องรบกวนเล็กๆน้อยๆเข้ามาแทรกเป็นประจำ การที่คุณทำตารางการทำงานขึ้นมาจริงๆ และแปะไว้บนฝาผนัง ให้ทุกคนในครอบครัวได้เห็น พวกเขาจะได้เคารพในการใช้เวลาของคุณ เพราะพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าคุณจัดเวลาไว้สำหรับทำอะไรบ้างในแต่ละวัน
2. ตัดสิ่งรบกวนออกไปให้หมดคุณต้องยอมรับว่า เวลาในชีวิตของคุณ มักจะหมดไปกับผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆของคุณ คนในครอบครัว ลูกๆ ดังนั้น นับจากวันนี้ไป พวกเขาต้องเคารพในการใช้เวลาของคุณ คุณต้องพูดให้พวกเขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่า การที่คุณนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน แล้วพวกเขาจะคิดว่า เข้ามาพูดคุยกับคุณเมื่อไหร่ก็ได้ อันนั้น ย่อมทำให้คุณเสียสมาธิอย่างแน่นอน และย่อมส่งผลเสียต่อการทำงานอย่างต่อเนื่องของคุณ วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ติดป้ายไว้หน้าห้องทำงานของคุณเลยครับว่า ตอนนี้กำลังใช้สมาธิทำงานอยู่ ห้ามรบกวน
3. ทำรายการ "สิ่งที่ต้องทำ"คุณ ต้องเขียนเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จลุล่วงออกมาบนหน้ากระดาษ อย่าเก็บมันเอาไว้แค่ในใจ การเขียนออกมา จะทำให้คุณโฟกัสการทำงานอยู่ที่เป้าหมายได้ดีกว่า ไม่เชื่อลองทำดูครับ ผมเองใช้วิธีนี้เป็นประจำ ทั้งๆที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ผมยังชอบจดเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำให้ลุล่วงไว้บนกระดาษอยู่ดี เพราะขณะที่เราจดนั้น มันคือการกระตุ้นย้ำเตือนลงไปในสมองเลยครับ ว่านี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ที่ต้องทำให้สำเร็จนะ
4. เข้า Center เมื่อจำเป็น เท่านั้น !นี่เป็นสิ่งที่อาจจะขัดแย้งกับใจของเพื่อนๆนักธุรกิจเครือข่ายหลายท่าน ที่อาจถูกอบรมให้เห็นคุณค่าของการเข้า Center เป็นประจำ ผมเองก็เห็นคุณค่าของ Center เช่นกันครับ แต่บ่อยครั้ง ที่ผมพบว่า การเข้า Center คือการที่เรา เข้าไปพูดกันแต่เรื่องเดิมๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราได้งานอะไรเพิ่มขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนั้น จะเสียเวลาไปเข้า Center เพื่ออะไรครับ ยกเว้นว่า การเข้า Center นั้น เพื่อให้เราได้ฝึกพูดต่อหน้าชุมชน เพื่อให้เราได้เรียนรู้เรื่องแผนธุรกิจให้กระจ่างชัด เพื่อให้เราได้เรียนรู้เทคนิควิธีการต่างๆจากเพื่อนรวมทีม และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าหากว่า เราเอง ใช้ Center เพื่อเป็นที่นัดหมายดาวน์ไลน์ใหม่ๆของเรา เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาสอนงานพวกเขาอย่างเต็มที่ อันนั้นสมควรอย่างยิ่งครับ ที่เรา"ต้อง"ไป Center แต่ถ้านอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ผมอยากให้เอาเวลามาโฟกัสที่การทำงานให้ลุล่วงตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ใน แต่ละวันมากกว่านะครับ
5. ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์พูดคุยกับ Upline และ Downline ตลอดเวลาบ่อยครั้งที่เรามักคิดว่า การรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ระหว่างเรากับอัพไลน์และดาวน์ไล คือ การได้โทรศัพท์พูดคุยกันตลอดเวลา เพราะเราคิดว่า นั่นคือการสร้างแรงจูงใจร่วมกันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการที่เราโทรพูดคุยกับดาวน์ไลน์ใหม่ๆของเราเสมอ แต่ผมอยากจะบอกว่า เอาเวลาไปทำงานให้ลุล่วงตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ จะดีกว่าครับ แล้วพูดคุยเฉพาะเท่าที่จำเป็น ไม่อย่างนั้น จะกลายเป็นองค์กรที่มีแต่ผู้คนพูดคุยกันตลอดเวลา แต่ไม่มีใครลงมือทำงานจริงๆซะทีนะครับ
6. จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำแน่นอนครับว่า การจะใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องเริ่มจากการถามตัวเราเองว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำ และเมื่อทำแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมอยากให้ลองถ่ายโอนงานบางอย่างออกไปบ้างครับ บางอย่างเราก็ใช้เงินทำงานแทนได้ เช่น บางครั้งผมไม่มีเวลารวบรวมเนื้อหาใหม่ๆจากต่างประเทศ ผมก็ใช้วิธีจ้างน้องๆนักศึกษา ให้มาช่วยผมรวบรวมข้อมูล เพราะผมต้องการเอาเวลาไปโฟกัสที่งานหลักจริงๆ ซึ่งไม่มีใครทำแทนผมได้ นั่นคือ โฟกัสที่การสอนทีมงานของผม ให้เชี่ยวชาญการใช้ ระบบดึงดูดอัตโนมัติ ให้ได้ และสอนให้พวกเขา รู้วิธีสอนทีมงานรุ่นต่อๆไป ให้เชี่ยวชาญการใช้ ระบบดึงดูดอัตโนมัติ เช่นกัน นี่คืองานที่สำคัญที่สุด เพราะมันทำให้ผมสามารถเกษียณได้อย่างแท้จริงครับ
7. ต้องหัดพูดคำว่า "ไม่"!คุณคงจำเป็นต้องหัดพูดคำว่า ไม่ ให้บ่อยขึ้นแล้วล่ะครับ ก่อนจะตกปากรับคำใครว่าจะไปร่วมงาน หรือไปร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งต้องพูดตรงๆว่า คนไทยเราส่วนใหญ่เป็นคนขี้เกรงใจครับ บางทีเพื่อนฝูงมาชวนไปนั่นไปนี่ ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน ไปๆมาๆ งานที่วางเอาไว้ว่า ต้องทำให้สำเร็จ ก็มักมีอันต้องถูกเลื่อนออกไปทุกที เพราะรับปากใครต่อใครเอาไว้ว่าจะต้องไปร่วมกิจกรรมกับเขานี่แหละ
8. ให้เวลากับการฝึกฝนเรียนรู้อันนี้แหละครับ คุ้มค่ากับการใช้เวลา มากที่สุด โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ และเคยได้เข้าฟังบรรยายจากผมไปบ้างแล้ว คุณคงรู้ดีว่า มีอะไรมากมายแค่ไหนในโลกออนไลน์ ที่คุณต้องให้เวลาในการฝึกฝนและเรียนรู้วิธีการใหม่ๆอยู่เสมอ ให้คิดว่า เราเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนนะครับ คงไม่มีนักวิ่งคนไหน ที่ลงแข่งโดยไม่ฝึกซ้อม การฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่องเท่านั้นครับ ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ได้
9. วางแผนตั้งแต่คืนนี้ ว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรนี่คือสิ่งที่ผมทำเสมอก่อนเข้านอนครับ ผมจะเขียนสิ่งที่ต้องทำหรือไอเดียใหม่ๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานเสมอ และเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา นั่นคือสิ่งแรกที่ผมจะได้เห็นบนโต๊ะทำงาน ซึ่งมันจะช่วยย้ำเตือนผม ตั้งแต่เริ่มต้นวันนั้นเลยว่า ผมต้องใช้เวลาในวันนั้น เพื่อทำอะไรบ้าง
10. ลงโทษตัวเอง ถ้าคุณทำไม่ได้ตามตารางงานที่วางไว้มันคือการฝึกวินัยในตัวคุณครับ เหมือนกับที่ทหารผิดวินัย ก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าคุณไม่ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับตัวเอง สุดท้ายแล้ว ต่อให้คุณทำตารางงานไว้ดิบดี คุณก็ไม่ลงมือทำตามนั้นอยู่ดี ซึ่งข้อนี้ คุณควรประกาศให้ทุกคนที่คุณรู้จักได้รับรู้กันไปเลยครับว่า ถ้าคุณทำไม่ได้ตามที่วางตารางงานเอาไว้ คุณจะลงโทษตัวเองอย่างไรบ้างทั้งหมดนี้ คือ หลัก 10 ข้อ แห่งการบริหารเวลาในชีวิต ซึ่ง ถ้าเพื่อนๆทำได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนๆจะพบว่า หนึ่งวันอาจไม่ได้มีเพียงแค่ 24 ชั่วโมง หรือแม้แต่ หนึ่งปีก็อาจไม่ได้มีแค่ 12 เดือน แต่มันอาจกลายเป็น 13-14 เดือน เพราะคุณได้ผลงานมากกว่าที่คนทั่วไปทำได้ และแน่นอนครับว่า ความสำเร็จย่อมต้องมาถึงคุณ รวดเร็วกว่าคนทั่วไปอย่างแน่นอนที่สุด ฟันธงได้เลยครับ !
มาสเตอร์อนุวิท พลอยรัตน์ เผยแพร่
ขอขอบคุณ givenut ผู้เขียน ที่ให้เกียรตินำเผยแพร่ผ่าน วิชาการ.คอม
ขอขอบคุณ วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
เรามีความยินดีและอนุญาตให้ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเท่านั้น