รูปภาพของรุ่งทิวา นาเมืองรักษ์
เคล็ดลับ สร้างลูกฉลาดได้ตั้งแต่ในครรภ์
โดย รุ่งทิวา นาเมืองรักษ์ - เสาร์, 19 มีนาคม 2016, 11:14AM
 

เคล็ดลับ สร้างลูกฉลาดได้ตั้งแต่ในครรภ์

          การมีลูกน้อยเป็นเด็กเฉลียวฉลาด คือสุดยอดปรารถนาของคุณพ่อคุณแม่ และไม่ใช่เหตุผลด้านพันธุกรรมแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะสมองที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ การเจริญเติบโตทางความคิดตามวัย และสติปัญญาที่ก้าวหน้านั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ หากปราศจากการดูแลที่เหมาะสม โดยเฉพาะการให้ความสำคัญการกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอด การศึกษาถึงเคล็ดลับที่ต้องใช้ระหว่างตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องจำเป็น

 1. นวดเบา ๆ ลูกผ่อนคลาย
          คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่มีข้อห้ามเกี่ยวกับการนวด เพียงแต่ต้องนวดกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การนวดร่างกายเบา ๆ ครั้งละ 30 นาที-1 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการใช้โลชั่นกลิ่นจาง ๆ ที่คุณแม่โปรดปราน จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้แจ่มใสขึ้นได้มาก ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง สบายใจ มีผลต่ออารมณ์ของลูกในท้องด้วย เด็กที่อารมณ์ดีตลอดการตั้งครรภ์มักจะคลอดออกมาพร้อมสมองที่สมบูรณ์และนำไปสู่การเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
 2. จิ้มท้อง เซลล์สมองพัฒนาไว
          ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกได้ถึงการดิ้นของลูก อย่าปล่อยให้เวลานั้นสูญเปล่า มากระตุ้นพัฒนาการลูก ทุกครั้งที่ลูกดิ้น ลองใช้มือตบหน้าท้องเบา ๆ เป็นจังหวะ หรือเมื่อลูกโก่งตัวเคลื่อนไปมา ลองใช้นิ้วจิ้มไปยังจุดที่เคลื่อนไหว ลูกจะมีปฏิกิริยาตอบรับ และเคลื่อนที่หรือดิ้นไปยังทิศทางหนึ่ง นั่นหมายถึงลูกกำลังใช้สติปัญญาตอบสนองจากสิ่งเร้าที่คุณแม่สร้างให้ ช่วยให้ลูกมีการพัฒนาเซลล์ประสาทที่ดี และฉลาดมากขึ้นนั่นเอง
 3. คุยกับลูกกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
          แม่ตั้งครรภ์ที่นั่งคุยคนเดียว อาจดูน่าขัน แต่ที่จริงนี่เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ลูกฉลาดตั้งแต่ยังเป็นตัวน้อยในครรภ์ เสียงพูดของแม่จะส่งผ่านเข้าไปยังโสดประสาทของทารกน้อย เพื่อปูพื้นฐานการได้ยิน รับรู้ แยกแยะเสียง ทำให้ทารกในครรภ์มีทักษะด้านภาษาและสื่อสารตั้งแต่ยังไม่ได้คลอด เพราะเสียงแม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำแบบนี้ได้บ่อย ๆ ทุก ๆ วัน ระหว่างตั้งครรภ์ เป็นการสร้างความฉลาดให้ลูกได้ไม่ยากเลย
 4. สัมผัสผิวท้อง ลูกจะตอบสนองเก่ง
          โดยธรรมชาติหญิงตั้งครรภ์มักลูบหน้าท้องเสมอ ๆ แต่ลองให้สัมผัสนั้นมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการถูให้แรงขึ้น ลูบเป็นวงกลมจากล่างขึ้นบน หรือจากบนลงล่างก็ได้ เพื่อกระตุ้นการสัมผัสให้ลูกน้อยรับรู้การสื่อสารผ่านผิวหนังและมดลูกของแม่ ทำได้ตั้งแต่หลังสัปดาห์ที่ 8 เป็นต้นไป เพราะลูกเริ่มไวต่อสัมผัสและเคลื่อนไหวได้แล้ว บางครั้งลูกอาจตอบสนองด้วยการผลัก ยื่นมือ ไขว่คว้าไปมา ซึ่งคุณแม่ทำได้ทุกวัน จะยิ่งได้ผลที่ดี
           5. เต้นรำตามเสียงดนตรี
          การเต้นรำประกอบเพลงนั้นเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง แต่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกว่า เสียงดนตรีทำให้แม่และลูกมีความสุขไปพร้อมกัน วิธีการเต้นที่ดีที่สุดคือการใช้มืออุ้มโดยรับท้องเอาไว้ เปิดเพลงในจังหวะร่าเริง แต่ไม่เร็วเกินไป จากนั้นโยกย้ายส่ายตัวไปตามจังหวะเพลง เคลื่อนที่ไปรอบห้อง จะเต้นคนเดียวหรือเต้นร่วมกับคุณพ่อ และเพื่อน ๆ ก็ได้ ลูกในท้องได้ทั้งสนุกสนาน ผ่อนคลาย รับรู้ความสุของแม่ ได้ความสนุก
 6. ฟังเพลงคลาสสิก 10 นาที ลูกจะมี IQ สูง
          หูของทารกในครรภ์จะมีความสมบูรณ์ในสัปดาห์ที่ 20 และเริ่มต้นรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในสัปดาห์ที่ 24 ได้ยินเสียงในสัปดาห์ที่ 30 สามารถแยกแยะเสียงได้ในสัปดาห์ที่ 34 หากเปิดดนตรีให้ลูกน้อยฟังระหว่างตั้งครรภ์ วันละครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที ทำสม่ำเสมอ โดยใช้หูฟังอันใหญ่เปิดเสียงดังพอประมาณ เลือกดนตรีคลาสสิกที่มีท่วงทำนองฟังสบาย อย่างเพลงของโมสาร์ทที่ขึ้นชื่อว่าช่วยกระตุ้นการได้ยิน เพิ่มไอคิว เสริมสร้างพัฒนาการทำให้สมองดีและเฉลียวฉลาดได้อย่างไม่ผิดหวังเลยทีเดียว
 7. เปิดไฟฉายส่องท้องกระตุ้นสมองลูก
          คุณแม่ลองหาเวลาในช่วงค่ำหลังมื้อเย็น ใช้ไฟฉายส่องไปยังท้อง เปิดไฟกะพริบ ๆ เพื่อให้แสงลอดผ่านหน้าท้อง และผ่านน้ำคร่ำไปยังลูกน้อยสักวันละ 5-10 ครั้ง ครั้งละ 1-2 นาที ช่วงเวลานี้ ลูกในท้องจะได้เรียนรู้พื้นฐานของความมืด-ความสว่างว่าแตกต่างกันอย่างไร แม้ประสาทสัมผัสจะยังทำงานไม่เต็มที่ แต่ก็เป็นการกระตุ้นสมองให้ลูกเฉลียวฉลาดได้ในอนาคตอันใกล้
 8. อ่านหนังสือ คือสุดยอดของการส่งผ่านพลัง
          ระหว่างตั้งครรภ์อ่านหนังสือหรือแมกกาซีนเล่มโปรดออกเสียงดูค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาแบบไหน ลองหาเวลาวันละสักครึ่งชั่วโมงอ่านด้วยท่วงทำนองเสียงดังฟังชัด มีจังหวะจะโคน มีน้ำเสียงน่าฟัง แต่ถ้าให้ดีอาจเป็นหนังสือเด็กหรือนิทาน ก็จะยอดเยี่ยมไปอีก เพราะการอ่านทำให้แม่ได้ผ่อนคลาย กระตุ้นความจำ มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งพลังเสียงจะส่งผ่านไปยังลูกได้ด้วยเช่นกัน
 9. คุณแม่นั่งชิงช้า เสริมพัฒนาการอย่างไม่น่าเชื่อ
          ชิงช้า เป็นเครื่องเล่นอย่างหนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรมีติดบ้านไว้ หรือหาโอกาสไปนั่งเล่นในสวนสาธารณะได้ การนั่งชิงช้าจะช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหว โยกตัวไปในท่าที่จะทำให้ลูกในท้องได้รับการสัมผัสกับผนังมดลูกมากขึ้น เพียง 15-20 นาทีต่อวัน ทำให้ลูกได้รับการกระตุ้นสมอง ตื่นตัว และรับรู้ถึงการอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแม่ โสดประสาทจะเปิดรับการสัมผัสและนำไปสู่การแตกแขนงของเซลล์ประสาทอย่างน่าทึ่ง
 10. คุณแม่ปั่นจักรยาน เสริมพัฒนาการสร้างเซลล์สมองไว
          หากคุณแม่เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์และไม่มีปัญหาเกี่ยวกับรกเกาะต่ำหรืออื่น ๆ ที่ห้ามออกกำลังกาย สามารถเลือกการปั่นจักรยานเบา ๆ ทั้งปั่นรอบ ๆ บ้าน หรือปั่นอยู่กับที่ สักวันละ 15-20 นาที เป็นผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์ เพราะการเคลื่อนไหวบริเวณขาต่อเนื่องมายังสะโพก ส่งผลให้สร้างการกระตุ้นเซลล์สมองได้ จากการรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายที่แปลกออกไป ทำให้ทารกสัมผัสถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ เป็นการเตรียมความพร้อมเพิ่มการปรับตัวไว้ล่วงหน้า

 

แหล่งที่มา :http://baby.kapook.com-137996.html

มิสรุ่งทิวา   นาเมืองรักษ์  ตำแหน่ง บุคลากรทางการศึกษา