ปอก”กล้วย”เข้าปากง่ายๆ
แต่ได้ประโยชน์เพียบ
บทความโดย
มิสสมประสงค์ เบือนขุนทด
ปีใหม่ 2558 นี้
มาเริ่มต้นปีกันด้วยผลไม้ไทยๆ อย่าง “กล้วย” ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
กินแล้วทำให้มีชีวิตชีวา เอาฤกษ์เอาชัยให้ปีใหม่นี้ชีวิตมีแต่เรื่องกล้วยๆ ทำอะไรก็สำเร็จสมหวังง่ายดายเหมือน
“ปอกกล้วยเข้าปาก”
ปอกกล้วยเข้าปากทำให้ชีวิตดีสุขภาพดีได้จริงๆเพราะกล้วยอุดมไปด้วยโปรตีน
วิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินเอ
วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี นอกจากนี้
ยังอุดมไปด้วยเส้นใยกากอาหาร และน้ำตาลจากธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส กลูโคลส และ
ฟรุคโทส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายอีกด้วย มีข้อมูลบอกว่า
กล้วยมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากกว่าแอปเปิ้ลถึง 2 เท่า
โดยมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มี ฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีโปรตีนมากกว่า 4
เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า มาดูกันว่า กล้วย 3 ชนิด คือ กล้วยไข่
กล้วยน้ำว้า และกล้วยหอม ที่คนทั่วไปนิยมรับประทานนั้น ดีกับสุขภาพแค่ไหน
กล้วยไข่
กล้วยไข่ 100 กรัม ให้พลังงาน 145
กิโลแคลลอรี กล้วยไข่มีเบตาแคโรทีน (Beta-Carotene) มากที่สุด ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ สาเหตุของโรคมะเร็ง
และวิตามินสูงกว่ากล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม กล้วยไข่ 2 ผล เท่ากับ ข้าว 1 ทัพพี
มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตอยู่พอสมควร จึงไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- เสริมสร้างการเจริญเติบโตของเด็กในกล้วยโดยเฉพาะกล้วยน้ำว้ามีกรดอะมิโนฮีสติดิน (Histidine)และอาร์จินีน(Arginine)ซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นต่อร่างกายช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ผู้ใหญ่สมัยก่อนจึงมักให้ด็กๆกินกล้วยน้ำว้าสุกเป็นประจำ
- ช่วยระบายท้องกล้วยมีเส้นใยและกากอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างปกติ ช่วยในการระบายท้อง
ลดอาการท้องผูก และป้องกันโรคริดสีดวงทวาร
- รักษาโรคโลหิตจางในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด
ป้องกันการเกิดโลหิตจาง
- ลดความดันโลหิตกล้วยมีโซเดียมเพียงเล็กน้อย แต่มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตลงได้
ในประเทศอินเดียมีความเชื่อว่า หากรับประทานกล้วย 2 ผลต่อวัน
จะสามารถลดความดันโลหิตได้ถึงร้อยละ 10 ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์
- เพิ่มพลังสมองเพราะมีสารที่ช่วยทำให้มีเกิดและมีการตื่นตัวตตลอดเวลา
- ลดอารมณ์แปรปรวน ผู้หญิงในช่วงระหว่างก่อนมีประจำเดือน
อารมณ์ จะหงุดหงิดแปรปรวนง่าย รวมไปถึงอาการปวดหัว ปวดท้อง
หากรับประทานกล้วยก็จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า 100 กรัม ให้พลังงาน 147
กิโลแคลอรี และยังมีวิตามินอมากที่สุดเมื่อเทียบกับกล้วยไข่และกล้วยหอม
รวมทั้งมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระพวกโพลิฟีนอล(Polyphenol)แทนนิน(Tannin)คาเทซิน(Catechin)และเส้นใยอาหาร สูงกว่ากล้วยไข่และกล้วยหอมด้วย สมัยโบราณบอกไว้ว่า
กินกล้วยน้ำว้าสุกวันละ 1-2 ผล เป็นยาอายุวัฒนะ
กล้วยน้ำว้ามีแคลเซียมสูงและดูดซึมได้เร็ว 5-6 เท่า
เมื่อถูกความร้อนโดยเฉพาะกล้วยบวชชีและกล้วยปิ้ง
- บรรเทาอาการเจ็บคอหรืออาการเจ็บหน้าอกจากการไอแห้งๆ ทานวันละ5-6 ผล จะช่วยให้อาการระเคืองลดน้อยลงไป
- ลดการเกิดก้อนนิ่วในไตกาที่แคลเซียมถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้บางครั้งไตทำงานหนัก
อาจจะเกิดเป็นก้อนนิ่วการรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอย่างกล้วยจะช่วยให้ลดการเกิดนิ่วในไตได้
- ลดาการเกิดแผลในกระเพาะและลำไส้
กล้วยมีไยอาหารมาก
ซึ่งจะช่วยให้ลำไส้เล็กย่อยอาหารได้ดีขึ้น
และยังช่วยเคลือบกระเพาะอาหารให้ลดการระคายเคืองของกรดต่างๆ
ไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะ
- ลดอาการซึมเศร้ากล้วยมีสารทริปโตเฟน(Tryptophan)ซึ่งช่วยในการผลิตสารซีโรโทนิน(Serotonin)หรือสารแห่งความสุข จึงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
- บำรุงประสาทกล้วยมีวิตามินบีมาก ซึ่งจะช่วยบำรุงประสาทและการทำงานของสมอง
- ชะลอความชรากล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
- ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองกล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งจะช่วยลดภาวะจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้
กล้วยหอม
กล้วยหอม 100 กรัม
ให้พลังงาน 131 กิโลแคลอรี กล้วยหอมมีฟอสฟอรัสมากกว่ากล้วยไข่และ กล้วยน้ำว้า
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง และ
ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบได้
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริวกล้ามเนื้อเป็นตะคริว เป็นส่วนหนึ่งมาจากการขาดโพแทสเซียม
หรือมีโพแทสเซียมในร่างกายต่ำ การรับประทานกล้วยเป็นประจำจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
- ลดน้ำหนักกล้วยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน
เนื่องจากกล้วยมีคุณค่าทางอาหารสูงพอๆกับมันฝรั่ง แต่ มีปริมาณไขมัน โคเลสเตอรอล
และเกลือแร่ต่ำ
- ปกป้องมะเร็งเพราะกล้วยอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินอีก เบตาแคโรทีน และวิตามินซึ
จึงมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง
และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้ายได้
แหล่งที่มา
: ปุยฝ้าย.ปอกกล้วยเข้าปากแต่ได้ประโยชน์เพียบ.นิตยสารธรรมลีลา
ชีวิตดีสุขภาพดี.ปีที่ 15, ฉบับที่ 169 มกราคม
2558.