รูปภาพของอนุวิท พลอยรัตน์
บทความเรื่อง ความอดทน
โดย อนุวิท พลอยรัตน์ - ศุกร์, 9 มีนาคม 2018, 08:27AM
 

ความอดทน

ความอดทนเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของคนเรา เกิดมาเป็นคนจะต้องมีทั้งอดและทน อดก็คือไม่ได้สิ่งที่เราต้องการแต่เราก็ทนได้ การไม่ได้สิ่งนั้นไม่เป็นเหตุให้ใจเราต้องสูญเสียความสุข จนความทุกข์วิ่งเข้ามาแทนที่ความสุข อาการแห่งความทุกข์ทำให้สภาพร่างกายถูกกัดกร่อนจนถึงขั้นรุนแรงอาจเป็นโรคทำลายสุขภาพ จนทำลายชีวิตซึ่งเป็นไปไดสารพัด

สิ่งตรงข้ามของความทุกข์ คือ ความสุข สิ่งตรงข้ามทุกอย่างอาจเป็นพิษทำลายได้ง่ายๆ ไม่ยากเลย เช่น ความรักคือความสุข ใครมีความรักความสุขจะตามมาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เนิ่นนานนักเกิดอาการไม่สมหวังเมื่อใด ความรักจะแปรสภาพเป็นความทุกข์ทันที ความทุกข์ก็จะครอบงำจิตสำนึกให้จิตสำนึกที่เคยมีแต่ความสุขสงบร่มเย็นแปรสภาพเป็นความทุกข์ ความโกรธ ความแค้น ความเครียด ความอาฆาต พยาบาทสิ่งเหล่านั้นคือไฟที่ร้อนรน เริ่มเผาตัวเองจนลามทุ่งมุ่งไปสู่สรรพสิ่งใกล้เคียงจนถึงสิ่งห่างไกล เผาผลาญอย่างไร้เหตุผล แม้ประเทศชาติก็กลาย เป็นเหยื่อได้อย่างง่ายดาย เหลือเพียงแค่เหยื่อที่ถูกเผาผลาญเป็นจุล มองเห็นเป็นความหายนะโดยสิ้นเชิง

ความอดทนหรืออีกถ้อยคำ หนึ่งคือความอดกลั้นน่าจะมีความ หมายเหมือนกัน การอด การทน การกลั้นจะใช้คำใดหรือคำอื่นปนกันก็ให้ความเข้าใจได้เหมือนฉันว่า สิ่งที่ตนอยากทำก็พยายามกลั้นไว้หรือทนไว้ หรืออดไว้ ด้วยเหตุผลหนึ่งเหตุผลใดตามแต่สถานการณ์ อันตนไม่อาจจะทำได้ ด้วยวิธีการอย่างไรก็ตาม เหตุผลอะไรก็ตาม เช่น หิวข้าวแต่กินไม่ได้เพราะถือศีลอด นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องความอดทน เพราะถ้าไม่มีความอดทนย่อมถือศีลอดไม่ได้ และตลอดทั้งวันเต็มบริบูรณ์จนตะวันตกดินให้หิวแค่ไหนก็กินไม่ได้ นั่นเรียกว่าความอดทนและเราก็อธิบายให้เข้าใจคำว่า การถือศีลอดคือความอดทน นั่นเอง

หรือในบางสถานการณ์เราไม่ทำด้วยความอดทนหรืออดกลั้น เช่น โกรธคนอื่นที่ด่าเราอย่างเสียหายแต่เราก็ไม่ทำอะไรเขา แม้จะโกรธเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็สามารถงดการแสดงออก สนองตอบความต้องการได้แม้จะยากเย็นอย่างเกือบตั้งไว้ไม่อยู่ก็ตาม แต่เราก็สามารถตั้งไว้ได้ แสดงว่าตัวเรามีความเก่งในการระงับอารมณไว้ได้เป็นอย่างดี ความโกรธที่อุบัติขึ้นภายในเป็นเพียงปฏิกิริยาทางอารมณ์เท่านั้น ยังมิใช่การกระทำที่ส่งผลถึงผู้อื่นแต่ประการใด เมื่อเราสามารถระงับมิให้แสดงออกมาทางกิริยา โดยอวัยวะส่วนต่างๆ การระงับไว้ได้นั้นย่อมเป็นผลดีแก่ตัวเอง และนั่นคือการปฏิบัติตามคำบัญชาของอัลลอฮฺซุบฮานะฮูว่าตะอาลา ที่ได้รับรางวัลตอบแทนจากพระองค์อย่างแน่นอน

อวัยวะแต่ละชิ้นที่แรงอารมณ์โกรธวิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ เช่น ปาก ด้วยการพูดจาหยาบคายสนองอารมณ์โกรธ ใบหน้าที่มีเลือดคุกรุ่นอาการแดงกล่ำเนื้อตัวสั่นสะท้านกำมือไว้แน่นพร้อมจะกราดพุ่งตรงสู่เป้าหมาย ทำให้คู่โกรธเจ็บปวด หรืออวัยวะส่วนล่างเตรียมรับคำสั่งจากอารมณ์โกรธยกขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงสัมผัสกับอวัยวะบางส่วนของคนที่เราโกรธได้รับความเจ็บปวดถึงขั้นเป็นรอยช้ำหรือเป็นแผลเลือดซิบหรือเลือดโกรกไหลทั่วร่างกาย

ผลอันเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความโกรธนั้นไม่ได้สร้างสรรคุณงามความดีใด ๆ เลย เพราะเป็นความโกรธอันบังเกิดขึ้นมาจากอารมณ์อิสระไม่มีความสัมพันธ์กับสติปัญญาเลย อารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมานั้นจึงเป็นอารมณ์ที่ร้ายกาจแม้สติปัญญาจะมีส่วนร่วมด้วย แต่สติปัญญาโดนอารมณ์ครอบงำจนพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด แม้สติปัญญาจะสำนึกได้ว่าการทำตามคำสั่งของอารมณ์โกรธเป็นความผิดใหญ่หลวงนัก แต่ก็ยอมพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง อารมณ์สั่งให้ทำอะไรทำอย่างไรก็พร้อมจะทำตามคำสั่งนั้นอย่างเด็ดขาดด้วยความเหิมเกริมและสะใจ สมองที่บรรจุเต็มเปี่ยมด้วยสติและปัญญา หัวใจซึ่งบรรจุไว้ด้วยอารมณ์ซึ่งแบ่งได้เป็นอารมณ์ดีและอารมณ์ร้ายอันอารมณ์ไม่ว่าจะร้ายหรือดีมันจะสั่งไปที่สมองเพื่อให้สติปัญญาไตร่ตรอง กระบวนการได้ผ่านอย่างเรียบร้อยแล้วหน้าที่การสั่งการก็เป็นของหัวใจ จะดีหรือเลวก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของก้อนเนื้อหัวใจ ท่านศาสดากล่าวความว่า

ในร่างกายมีเนื้อก้อนหนึ่งหากคุณภาพดี ร่างกายทุกส่วนก็ดีด้วย และหากเนื้อก้อนนั้นเสียร่างกายทุกส่วนก็เสียด้วย พึงสังวรเนื้อก้อนนั้น คือหัวใจ (บุคอมุสลิม )

เราจึงต้องรักษาเนื้อก้อนนี้คือหัวใจของเราให้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เราสามารถจะทำได้ เราไม่ต้องสนใจความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับแนวคิดวิทยาศาสตร์ จะแตกต่างกันอย่างไร

หน้าที่ของเราจะต้องศรัทธาคำสอนของศาสดา มิใช่หลักคำสอนของวิทยาศาสตร์ ความคิดวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่พิสูจน์สัจธรรมด้วยสมองของตัวเองตามหลักสูตรที่เล่าเรียนมา เราไม่จำเป็นต้องนำความรู้จากสองด้านนี้มาตอบโต้กันเพื่อให้เหลือเพียงด้านเดียว เรานำคำสอนของศาสดามาเก็บไว้อย่างมั่นคงแข็งแรงในหัวใจของเขา เพราะเป็นสถานะแห่ง อะกีดะฮ์ พร้อมกับนำบทพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาปลูกไว้ในสมอง จะเปลี่ยนแปลงสักกี่หนก็เปลี่ยนได้ อย่าให้กระทบกระเทือนศรัทธา (อะกีดะห์) ในใจของเราเป็นอันขาด

เรามีหน้าที่ต้องหมั่นบริหารหัวใจของเราให้มีความแข็งแกร่งตลอดชั่วชีวิตของเรา แม้สมองของเราจะบริหารวิทยาศาสตร์และเปลี่ยนแปลงสักกี่หนเราก็ไม่หวั่นไหว เราพร้อมจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่หัวใจของเรา ที่มีศรัทธาอย่างมั่นคงและอดทนเท่านั้นที่จะสร้างความแ ข็งแกร่งได้ เหตุการณ์อันร้ายแรงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา หากเรามีความอดทนต่อเหตุการณ์นั้นได้ นั่นแหละคือความแข็งแกร่งที่อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาประทานแก่เรา ยิ่งอดทนต่อเหตุการณ์ได้มากและบ่อยเท่าใด ความแข็งแกร่งก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อัลกุรอานบัญญัติว่า

ขอขอบคุณบทความจาก

www.skthai.org

สำนักจุฬาราชมนตรี ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ