รูปภาพของวารุณี ไชยทวีวิวัฒน์กุล
รวม 9 เอกสารสำคัญที่ต้องใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย
โดย วารุณี ไชยทวีวิวัฒน์กุล - พุธ, 27 มีนาคม 2019, 09:37AM
 

เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งนักเรียน ก็สามารถสมัครรับตรงได้เช่นกันค่ะ ใครที่ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยช่วงนี้ก็โค้งสุดท้ายแล้ว สามารถหาโครงการรับตรง แต่การสมัครรับตรงแต่ละโครงการก็ต้องมีการส่งเอกสารที่สำคัญ ทั้งแบบส่งไปรษณีย์และอัพโหลดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต แต่สุดท้ายคือยังไงก็ต้องมีเอกสารเหล่านี้ ใครที่ยังไม่มีคือต้องมีแล้วนะคะ เอกสารทั้ง 9 อย่างมีอะไรบ้าง มาเช็กพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ใบแสดงผลการเรียน

ในทุกๆ เทอม น้องๆ จะรู้เกรดและคะแนนของตัวเองอยู่แล้วผ่านสมุดพกหรือใบประกาศคะแนนที่ทางสถาบันส่งให้ แต่เอกสารที่ใช้ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยคือ "ใบแสดงผลการเรียน" หรือ ทรานสคริป(Transcript) หรือ ใบ ปพ.1 ซึ่งการออกใบนี้จะออกโดยฝ่ายทะเบียนของสถาบันที่เราศึกษาค่ะ เป็นใบที่บอกผลการเรียนทั้งหมดตั้งแต่ ปวช. 1 ยันเทอมที่สมัครเลย มีรูปพร้อมตราประทับของสถาบันด้วย ขอหลายๆ ฉบับได้ค่ะ เพราะรับตรงบางโครงการก็ขอใบแสดงผลการเรียนฉบับจริง

ใบรับรอง

ใบรับรองที่ว่านี้คือ ใบรับรองผลการศึกษา หรือ ปพ.7 คือเป็นใบที่บอกว่าเรากำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช.3 ของสถานศึกษาที่เราเรียนอยู่จริง มีประทับตราสถาบัน พร้อมลายเซ็นต์ของผู้อำนวยการ ใบนี้เป็นเอกสารยืนยันว่าเราเรียนอยู่จริงๆ แต่ถ้าเกิดเรียนจบ ปวช. ไม่ต้องใช้ใบนี้นะคะ ใช้เป็นใบจบหรือใบประกาศนียบัตรเลย เพื่อใช้ยืนยันว่าเราเรียนจริง จบจริง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

อีกหนึ่งเอกสารที่สำคัญมากๆ ก็คือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ถ่ายเอกสารเก็บไว้เลยค่ะ ตอนถ่ายเอกสารก็ดูด้วยนะคะว่าเห็นข้อมูลชัดหรือเปล่า หน้าเราชัด มีตา หู จมูก ปาก ครบหรือเปล่า มันเข้มไปหรือเปล่า ไม่งั้นจะออกมาตลกแน่ๆ ถ้าใครมีเครื่องถ่ายเอกสารสีก็ใช้แบบสีเลยค่ะ รับรองเห็นชัดแน่ เก็บไว้หลายๆ ชุดเลย แล้วก็อย่าลืมเซ็นต์สำเนาถูกต้องด้วย แล้วจะใช้ในโครงการไหน ค่อยมาเขียนเพิ่มทีหลังค่ะ

สำเนาทะเบียนบ้านตัวเอง + ผู้ปกครอง

มันไม่แปลกเท่าไหร่ที่ใช้สำเนาทะเบียนบ้านตัวเอง แต่ที่ให้มีไว้เพิ่มคือ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง เพราะบางโครงการรับตรงเป็นรับตรงเฉพาะ กำหนดภูมิลำเนาของผู้ปกครองด้วย จึงจำเป็นต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครองเป็นเอกสารสำคัญในการยืนยันสิทธิ์สมัคร ซึ่งรับตรงเฉพาะแบบนี้การแข่งขันน้อยกว่าพวกรับตรงทั่วไป โอกาสสอบติดก็ง่ายกว่าด้วย

ใบสมัคร

เป็นเอกสารที่ขาดไม่ได้เลย ซึ่งแต่ละโครงการรับตรงหรือแม้กระทั่งรอบแอดมิชชั่นก็มีหน้าตาของใบสมัครต่างกัน บ้างก็เป็นแบบออนไลน์ สมัครเสร็จแล้วก็เซฟเก็บไว้ (เป็นไฟล์ pdf) บ้างก็เป็นแบบกรอกเอกสารแล้วกดเซฟ และก็พิมพ์ออกมา บ้างก็เป็นแบบฟอร์มให้พิมพ์ออกมาแล้วเราก็กรอกเอกสารให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ใบสมัครก็เป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นว่าเราทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว

ผลคะแนนต่าง ๆ

คะแนนต่างๆ ที่ว่านั้น มีตั้งแต่ GAT PAT, O-NET, วิชาสามัญ หรือการสอบภาษาอังกฤษ CU-TEP, TU-GET, TOEFL, IELTS เป็นต้น เอกสารพวกนี้เป็นเอกสารยืนยันคะแนนของเรา ถึงแม้ว่าบางโครงการจะเป็นการดึงคะแนนจากสถาบันที่จัดสอบเอง แต่เพื่อความผิดพลาดของข้อมูลเราก็ต้องมีเอกสารเก็บไว้ค่ะ อย่าทำหายหรือทิ้งเลย มันสำคัญมากสำหรับรับตรงที่ใช้คะแนนพิเศษเหล่านี้

เอกสารแสดงความสามารถพิเศษ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเอกสารแสดงความสามารถพิเศษ ซึ่งเอกสารนี้จะใช้เฉพาะรับตรงผู้ที่มีความสามารถพิเศษ เช่น รับตรงนักกีฬาฯ, รับตรงผู้ที่มีคุณธรรมฯ, โควตาโอลิมปิกฯ เป็นต้น เอกสารแสดงความสามารถพิเศษก็เช่น เกียรติบัตร ใบรับรอง หรือใบประกาศนียบัตรต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเรา ยิ่งเป็นระดับชาติ หรือ นานาชาติ จะยิ่งได้เปรียบค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะคะ

Portfolio

นับว่าเป็นอีกเอกสารที่สำคัญไม่แพ้ตัวไหน สำหรับ Portfolio ที่จะเป็นตัวช่วยให้กรรมการสอบสัมภาษณ์ได้รู้จักเราเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นตัวนำในการสอบสัมภาษณ์ด้วย และแสดงให้เห็นว่าเรามีความขยันในการทำ Portfolio ซึ่งบางโครงการก็ไม่ได้เรียกขอ ในปัจจุบันน้อง ๆ มีความครีเอทในการทำ Portfolio ออกมาหลายรูปแบบ ลองค้นหาดูนะคะ ยิ่งทำ Portfolio ให้น่าสนใจมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นใบเบิกทางตอนสอบสัมภาษณ์มากขึ้นเท่านั้น

หลักฐานการชำระเงิน

หนือสิ่งอื่นใด ถ้าสมัครแล้ว เอกสารครบแล้ว จ่ายเงินแล้ว แต่หลักฐานการชำระเงินหาย ก็อาจจะหมดสิทธิ์ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ทุกโครงการที่สมัครต้องมีการจ่ายเงินค่าสมัครค่ะ มีตั้งแต่ 100-2,000 บาทแล้วแต่โครงการ ส่วนในรอบแอดมิชชั่นก็จ่ายจามอันดับที่เลือก สูงสุด 250 บาท หลักฐานการชำระเงินเราควรเก็บไว้ เพราะจะเป็นหลักฐานยืนยันได้เมื่อระบบสมัครแจ้งมาว่าเราไม่ได้ชำระเงิน ถ่ายสำเนาเก็บไว้เลยก็ดีค่ะ

นอกจากเอกสารเหล่านี้แล้ว สิ่งที่น้องๆ ควรมีติดไว้เพิ่มเติมคือ ซองเอกสารสีน้ำตาล ใช้สำหรับส่งเอกสารทางไปรษณีย์ และแฟ้มเก็บสำเนาเอกสารต่างๆ ใช้ในการเก็บเอกสารให้เรียบร้อย เวลาจะใช้ก็หยิบง่ายๆ เลย

ที่สำคัญ เอกสารไหนที่เป็นสำเนา ก็อย่าลืมเซ็นต์สำเนาถูกต้องไว้ด้วย เวลาจะใช้จะได้ไม่ลืม ที่เหลือก็ลุ้นกันเนอะว่าจะสอบติดที่ไหน อย่าเพิ่งท้อแท้นะคะ ยังเหลือรับตรงอีกเพียบเลย สำหรับใครที่มีคะแนน O-NET ก็ยังมีรอบแอดมิชชั่น และก็ยังมีรอบหลังแอดมิชชั่นอีก เอาเป็นว่าเตรียมเอกสารดีๆ ละกัน รับตรงมาเมื่อไหร่ก็สมัครโล้ด!!!

ที่มา: https://www.dek-d.com/education/39809/