รูปภาพของชฎาพร โฉมประเสริฐ
เกาหลีใต้กับ ร.ร.ไร้กระดาษ
โดย ชฎาพร โฉมประเสริฐ - พฤหัสบดี, 7 มีนาคม 2013, 11:40AM
 

การพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้เป็นมหาอำนาจทางด้านอุตสาหกรรมไอทีของเกาหลีใต้เป็นเรื่องมหัศจรรย์ จากผลงานส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตจนได้เป็นประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงสูงที่สุด ขณะนี้เกาหลีใต้กำลังเตรียมแสดงพลังการเป็นผู้นำด้วยการก่อตั้งและวางระบบ

โรงเรียนไร้กระดาษ คำนี้มาจากคำภาษาอังกฤษ paperless school หมายถึง โรงเรียนที่ไม่ต้องใช้กระดาษทั้งในการสอนและการเรียน เวลาไปโรงเรียนเด็กจะถือคอมพิวเตอร์แบบแทบเล็ต ส่วนครูเวลาอยู่ในห้องเรียนจะถือแผงรีโมตคอยกดปุ่มแจกแจงบทเรียนให้นักเรียนได้เรียน

ที่สำคัญไม่แพ้กันคือระบบโรงเรียนไร้กระดาษยังอาจแปรสภาพเป็นโรงเรียนเสมือนจริง เพื่อให้เด็กที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้เรียนเหมือนเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งในกรณีนี้ยังรวมถึงเด็กพิการที่ไม่สามารถไปเรียนในโรงเรียนปรกติได้

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศแผนงานก่อตั้งระบบโรงเรียนไร้ กระดาษเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป้าหมายคือ เมื่อถึงปี 2558 หรือ 4 ปีข้างหน้า นักเรียนทุกคนจะไม่ต้องถือสมุดและหนังสือไปโรงเรียน เช่นเดียวกับโรงเรียนที่ไม่ต้องมีสมุดและหนังสือไว้คอยบริการ

เพราะหนังสือทุกเล่มที่ใช้สอนในโรงเรียนจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบดิจิตอล ใครอยากอ่านเพียงกดปุ่มโปรแกรมหนังสือเรียนบน จอแทบเล็ต เมื่อค้นหนังสือได้แล้วก็เปิดหน้าที่ต้องการอ่าน เช่นเดียวกันถ้าต้องการเขียนก็กดปุ่มโปรแกรมสมุดแล้วเปิดหน้าที่ต้อง การเขียน เขียนเสร็จก็กดปุ่มโปรแกรมส่งรายงานให้ส่งไปยังผู้รับ

ฟังแล้วง่ายแต่จริงๆยาก ความยากอันดับแรกคือ การรวบรวมหนังสือและตำราเรียนทุกเล่มมาถ่ายทอดเป็นตัวอักษรดิจิตอล หลังจากนั้นเข้าไปดูหนังสือและตำราอ้างอิง รวมทั้งที่ส่งเสริมความรู้และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนการสอนแล้วจึงนำไปถ่ายทอดเป็นตัวอักษรดิจิตอล

ต่อจากนั้นข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้ที่การบริการข่าวสารการวิจัยและการศึกษาแห่งเกาหลี (Korea Education and Research Information Service) ซึ่งที่นี่จะมีเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่มากเป็นตัวเก็บรับและส่งข้อมูลไปยังโรงเรียนที่ต้อง การผ่านระบบสื่อสารที่ทันสมัยที่สุดของโลก รวมทั้งระบบไว-ไฟ ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนและครูสามารถเข้าถึง ข้อมูลได้ในพริบตา

ทั้งหมดนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งงบประมาณไว้แล้วที่ 2.2 ล้านล้านวอน คิดเป็นเงินไทยราว 60,000 ล้านบาท ถามว่าคุ้มไหม คุ้มอันดับแรกคือ ชื่อเสียงเกาหลีใต้ในฐานะประเทศแรกในโลกที่จัดทำระบบโรงเรียนไร้กระดาษ ซึ่งอาจต่อยอดเป็นสถานที่ดูงานสำหรับประเทศที่สนใจ

คุ้มอันดับสองคือ โอกาสของเกาหลีใต้ที่จะพัฒนาเครื่องและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบ เรื่องนี้ถ้าดูฝีมือเกาหลีใต้ตอนนี้ใน การออกโทรศัพท์อัจฉริยะและคอมพิวเตอร์พกพาบางเบา มีความเป็นไปได้ที่ต่อไปเราจะเห็นเครื่องและอุปกรณ์ที่สามารถสอนมนุษย์ให้รู้ทุกอย่างและทำได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องไปเรียนในห้องเรียน

ยกตัวอย่างชาวนาที่อยากรู้วิธีทำนาแบบใหม่ รวมทั้งวิธีซ่อมยวดยานและเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา ปัจจุบันต้องเรียนแบบค่อยๆเรียน และเรียนแล้วรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ต่อไปอาจได้เรียนทันทีและเรียนแล้วรู้จริง

ถ้าต้องการสอบรับใบรับรองยังทำได้อีก เพราะระบบมีกลไกตรวจสอบการเรียนและนับเวลาเรียนผ่านการเคลื่อนไหวของนิ้วมือผู้เรียนขณะเรียน

ทั้งหมดนี้จะทำให้เกาหลีใต้ได้เป็นเจ้าวิทยาการการทำ งานผ่านระบบคอมพิวเตอร์บนก้อนเมฆ หรือ cloud computing และนี่เป็นความคุ้มสุดท้าย จากการที่ต่อไปเวลาชาวโลกทำงานจะไม่ทำในสำนักงานอีกต่อไป แต่จะขึ้นไปทำในศูนย์ที่ให้บริการดังกล่าว โดยเป็นการทำงานที่ทำขั้นตอนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ

ม่ต้องทำทีละขั้นตอนและส่งต่อให้ปวดหัวและเสียเวลาอย่างที่ทำมานานตราบจนทุกวันนี้

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ภาพจาก http://www.prachatalk.com