รูปภาพของชัญญานุช บางปา
สูตรแห่งความสุข...ในชีวิตประจำวัน
โดย ชัญญานุช บางปา - อาทิตย์, 10 มีนาคม 2013, 02:02PM
 

สูตรแห่งความสุข.....ในชีวิตประจำวัน

สูตรที่ว่านี้มีง่ายๆ อย่างนี้
   ๑. ดื่มน้ำให้มาก   
   ๒. กินอาหารเช้าเหมือนราชา,รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น,
       ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน(แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า,และกลางๆ ตอนเที่ยง
        และตกเย็นแล้ว,ทำตัวเป็นยาจก,ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
     ๓.กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน,พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
     ๔.ใช้ชีวิตบนหลักการ3 E...นั่นคือenergyหรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือรือร้น
          และempathyคือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากๆ
     ๕. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
     ๖. เล่นเกมสนุกๆ เสียบ้าง,อย่าเครียดกันนักเลย
     ๗. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
     ๘. นั่งเงียบๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ10นาทีให้ได้
     ๙. นอนวันละ7ชั่วโมง
     ๑๐.เดินสักวันละ10ถึง30นาที,แล้วแต่จะสะกวด,ไม่ต้องเครียดกับมัน,วันไหนไม่ได้เดิน,
          ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
     ๑๑.ระหว่างเดิน,อย่าลืมยิ้ม
           นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ,หากทำเป็นกิจวัตรชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้วันนี้ ไม่ได้,พรุ่งนี้ทำก็ได้แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการ ผัดวันประกันพรุ่ง,ซึ่งเป็น           คนละเรื่องกัน 
          สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีดังนี้ 
     ๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่นคุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณ
        อย่างไรบ้าง
     ๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย,ก็ทุ่มเทกำลังและ                                                                                   

          พลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
     ๓. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
     ๔. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนักเพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
     ๕. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะ
        ทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
     ๖. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
     ๗.ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็น
        ต้องมีแล้ว

     ๘.ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของ
        อีกฝ่ายหนึ่งเลยเพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
     ๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
     ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น,จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
     ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
     ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียนคุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร
        ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
     ๑๓.จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
     ๑๔.คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่าง
        กันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

 แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?
     ๑.  อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อยๆ
     ๒.   จงหาอะไรดีๆ ให้คนอื่นทุกวัน
     ๓.   จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
     ๔.   จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน ๗๐  และต่ำกว่า  ๖ ขวบ
     ๕.   พยายามทำให้อย่างน้อย3คนยิ้มได้ทุกวัน
     ๖.   คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย
     ๗.  งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอกแต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณ
         ในยามคุณมีปัญหาสุขภาพดังนั้น,อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
   และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้,ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
       ๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
       ๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์,ไม่สวย,ไม่น่ารื่นรมย์,จงทิ้ง
        ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
       ๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
       ๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด,เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
       ๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน,จงลุกจากเตียง,แต่งตัวและปรากฏตัวต่อหน้า
           คนที่เราร่วมงานด้วย...get up, dress up and show up.
       ๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
       ๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้,อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
       ๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึกๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น,ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?
 
  ที่มา   http://www3.cdd.go.th/phetchaburi/boardsmf/index.php?topic=36.0

มิสชัญญานุช   บางปา    ผู้สรุป