รูปภาพของธิดารัตน์ พึ่งทอง
สัญญาณเตือนภัยที่สำคัญของโรคเบาหวาน
โดย ธิดารัตน์ พึ่งทอง - อังคาร, 9 เมษายน 2013, 02:54PM
 

สัญญาณเตือนภัยโดยทั่ว ๆ ไปของโรคเบาหวานประเภท 1 และโรคเบาหวาน ประเภท 2 จะคล้ายกันทั้งสองแบบจะมีกลูโคสในเลือดมากเกินไป และไม่เพียงพอสำหรับเซลล์ในร่างกายของท่าน 

โรคเบาหวานประเภท 1​​   เกิดจากการขาดอินซูลินเพราะเซลล์ผลิตอินซูลินได้ถูกทำลาย 

โรคเบาหวานประเภท 2   เกิดจากเซลล์ของร่างกายต่อต้านอินซูลินที่ร่างกายได้ผลิตขึ้นมา โรคเบาหวานทั้งสองแบบนี้จะทำให้ร่างกายไม่ได้รับกลูโคสตามที่ต้องการ และร่างกายของคุณจะมีอาการผิดปกติรวมถึงสัญญาณเตือนต่างๆ ที่จะทำให้คุณได้ทราบว่าคุณอาจจะเป็นโรคเบาหวานเข้าแล้ว

ความถี่ในการเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น  :

คุณเข้าห้องน้ำบ่อยครั้งแค่ไหนต่อวัน มันดูเหมือนคุณต้องการเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะตลอดทั้งวัน ท่านจะมีการปัสสาวะบ่อยมากขึ้นหากมีน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้น หากขาดอินซูลินหรือร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ตามปกติ ร่างกายจะพยายามรักษาสมดุลสร้างน้ำมาที่กระเพาะปัสสาวะบ่อยขึ้น ทำให้ท่านเข้าห้องน้ำบ่อยมากขึ้นนั่นเอง

 กระหายน้ำบ่อยมากขึ้นแบบไร้สาเหตุ  :

ถ้าท่านรู้สึกว่ากระหายน้ำบ่อยมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่อากาศไม่ได้ร้อน หรือไม่ได้ใช้เสียงจนคอแห้งก็อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน โดยเฉพาะถ้าท่านคอแห้งบ่อยขึ้นและน้ำไปรวมกับอาการปัสสาวะบ่อย ร่างกายของท่านต้องการปรับสมดุลขับน้ำออกไปแล้วในตอนแรก จึงต้องหาน้ำมาเพิ่มทดแทน ท่านจึงต้องการดื่มน้ำมากขึ้นผิดปกติ

 น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ :

อาการนี้จะพบมากในโรคเบาหวานชนิดที่ 1, ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เนื่องจากไวรัสในตับอ่อน หรือเพราะการตอบสนองแบบอัตโนมัติของร่างกายที่ทำให้การผลิตอินซูลินผิดปกติ ร่างกายต้องการแหล่งพลังงานเนื่องจากเซลล์ไม่ได้รับกลูโคส ร่างกายจะเริ่มต้นทำลายส่วนของกล้ามเนื้อและไขมันเพื่อไปให้พลังงานทดแทนกลูโคสที่ขาดหายไป ประเภทที่ 2 ค่อยๆ เกิดขึ้นกับความต้านทานต่ออินซูลินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการลดน้ำหนักแบบผิดปกติจึงเห็นไม่ชัดเจนเท่ากับโรคเบาหวานแบบที่ 1

 เหนื่อยง่ายขึ้น ร่างกายอ่อนแอ : 

กลับมากล่าวถึงเรื่องของกลูโคสเจ้าปัญหาอีกครั้ง กลูโคสจากอาหารที่เรารับประทานจะเดินทางเข้าสู่กระแสเลือดที่ลำเลียงโดยอินซูลิน ซึ่งจะช่วยให้ลำเลียงเข้าสู่เซลล์ในร่างกายของเรา ทำให้เซลล์ที่ใช้ในการผลิตพลังงานทำงานได้ตามปกติ เมื่อขาดอินซูลิน หรือถ้าเซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน กลูโคสก็ลำเลียงตามกระแสเลือดก็มาไม่ได้ ทำให้เซลล์ขาดพลังงาน คุณเลยมีอาการเหนื่อยง่ายขึ้น อ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอลง

 มือเท้าชา มีอาการมึนงง :

อาการนี้จะเกิดขึ้นกับระบบประสาท เกิดขึ้นเนื่องมาจากเวลาผ่านไปนานๆ แล้วกลูโคสในเลือดสะสมสูงขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาท โดยเฉพาะเบาหวานประเภทที่ 2 อาการจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเรากำลังเป็นเบาหวานอยู่ ความเสียหายภายในระบบประสาทจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวมาก่อน ประสาทส่วนปลายจะเป็นตัวควบคุมกลูโคสในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ

สัญญาณเตือนและอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น :

มองเห็นภาพซ้อน, ผิวหนังที่แห้งหรือคัน, แผลติดเชื้อง่าย และเวลาในการรักษาแผลนานมากขึ้น และยังมีอาการผิปกติอื่นๆ ถ้าหากท่านมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดภายในร่างกาย และมีอาการผิดปกติดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้น ก็ควรรีบพบแพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อตรวจโรคเบาหวานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขต่อไป....

  


แหล่งข้อมูล : www.108health.com

มิสธิดารัตน์  พึ่งทอง

บุคลากรทางการศึกษาฝ่ายกิจกรรม